เรื่องที่1 ความหมายและความเข้าใจของ
การตลาด (Marketing) หมายถึง กระบวนการที่จะนำสินค้าและบริการจากแหล่งของผู้ผลิต ไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้ายและสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ สามารถตอบสนองความพึงพอใจและสร้างความประทับใจผู้บริโภคได้มากที่สุดโดยทำกำไรสูงสุดให้แก่องค์กร
การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Marketing) ใหม่เข้ามาสนับสนุน ดดยอาศัยเครือข่ายเทคโนโลยีที่เรียกกันว่า (Network System) เข้ามาประสมประสานกันอย่างเป็นระบบ โดยโครงข่ายโทรคมนาคม (Telecomunication Network)
การทำการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกิจกรรมที่มีการสื่อสารแบบ2ทาง 2way com-munication หมายถึง กิจกรรมที่นำเสนอออกไปยังกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายนั้นทำกิจกรรมตอบกลับมา เช่น นักการตลาดส่ง sms ไปหาลูกค้าว่าสามารถดาวดหลดริงโทนเพลงดังจากละครได้ฟรี แล้วลูกค้าสนใจก็จะส่ง sms ไปโหลดเพลงดังกล
่าวมาไว้ในมือถือ เป็นต้น
เรื่องที่2 ลักษณะการตลาดอิเล็กทรอนิกส์
2.แบ่งส่วนลูกค้าตามพฤติกรรม behavioral segmentation คือพิจารณาจากพฤติกรรมลูกค้า ในการบริโภค อุปโภคของลูกค้าว่าสนใจต่อสินค้าหรือบริการใด
3.การตลาดแบบถึงตัว personalize marketing คือวิธีที่ลูกค้าจะกำหนดรูปแบบหรือวิธีการรับบริการหรือ สินค้าเอง
4.การทำการตลาดแบบนี้มีลูกค้าสามารถเข้าถึงได้จากทั่วโลก
5.สามารถมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้ตลอด 24ชม.
6.เป็นการทำธุรกิจที่สะดวกและต้นทุนต่ำ
7.สินค้าบางประเภทลูกค้าสามารถดาวโหลดไปใช้ได้เลยเช่น เพลง ภาพยนต์
เรื่องที่3ลักษณะลูกค้าในระบบ electronic marketing
2.ลูกค้าในประเทศ เป็นกลุ่มที่มีความรู้ทางด้านไอทีพนักงานสำนักงานและกลุ่มวัยรุ่น
เรื่องที่4 เครื่องมือในการทำการตลาด
2.เว็บแบนด์เนอร์ คือการทำโฆษณาผ่านทางเว็บไซด์ เพื่อเป็นการทำให้ลูกค้ารู้จักและเห็นสินค้ามากขึ้น
3.เวิลด์ไวด์เว็บ www. คือการจัดทำเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าเป็นหน้าร้านของเรา
4.เว็บบอร์ด web board คือกระดานที่อำนวยความสะดวกให้แสดงความคิดเห็น ขายของแลกเปลี่ยนกัน
5facebook เป็นตัวกลางที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนต่างๆได้จากทั่วโลก
เรื่องที่5 ส่วนผสมทางการตลาด
1. product ผลิตภันฑ์ในการนำเสนอลูกค้าบนเว็บไซต์หรือร้านค้าระบบออนไลน์ที่มีอยู่จริง เช่น ลักษนะ รูปร่าง ราคา ขนาด เป็นต้น
2.services product ผลิตภันฑ์บริการ เป็นสินค้าที่ไม่สามารถจับต้องได้หรือบริการ
3.haed product ผลิตภันฑ์หนัก ผู้จำหน่ายมีร้านค้าปกติอยู่แล้ว แต่อยากให้เกิดความรู้จักและแพร่หลายในตลาดเป็นวงกว้าง โดยนำสินค้ามาเปิดร้านค้าออนไลน์ป่านเว็บไซต์
4.price ราคา คือ การกำหนดราคาสินค้าของเจ้าของกิจการเอง
5.place สถานที่ จะแตกต่างจากร้านค้าทั่วไปเพราะไม่สารถสัมผัสได้ แต่สามารถเข้าไปหาข้อมูลเลือกซื้อได้
6.promotion การส่งเสริมการขายผู้ประกอบการต้องศึกาาความเป็นธรรมชาติของระบบและพฤติกรรมของลุกค้าที่จะดฆษณาให้ลึกซึ้ง เช่น ชื่อเว็บ การใช้คำ สี
7.social network เครือข่ายสังคม คือสังคมที่มีการสื่อสารแล้วเกิดการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆที่ถูกส่งออกไป
8.ระบบป้องกันความปลอดภัย จำเป็นค้องมีการป้องกัน รักษาข้อมูลในการโจรกรรมข้อมูลของลูกค้าไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบจนทำให้เกิดความเสียหาย
คำศัพท์ทางการตลาด
1. Arbitrage การหากำไรจากส่วนต่างของราคาของหลักทรัพย์ เงินตราหรือสินค้าในตลาดต่างกัน โดยสั่งซื้อในตลาดที่ราคาต่ำกว่าและส่งขายในราคาที่สูงกว่า2. Attrition การลดจำนวนพนักงาน อันเนื่องมาจากการลาออกปลดออก ปลดเกษียณ โยกย้าย
3. Authority อำนาจตามกฎหมายซึ่งผูกติดอยู่กับฐานะตำแหน่งลำดับชั้น
4. Behavioral approach ทฤษฎีการบริหารจัดการที่เน้นการพัฒนาประสิทธิภาพ
5. Benefit (in kind) ผลประโยชน์หรือสวัสดิการที่ให้แก่ลูกจ้าง นอกเหนือจากเงินเดือนหรือค่าจ้าง (fringe benefit)
6. Black Market ตลาดมืด การซื้อขายสินค้านอกตลาดที่ควบคุมโดยรัฐบาล
ไม่ว่าเป็นการควบคุมราคาหรือควบคุมปริมาณ (การปันส่วน)
7. Blacklist บัญชีดำ รายชื่อบุคคลหรือองค์การซึ่งถูกถือว่ามีเครดิตไม่ดีเสี่ยงต่อการติดต่อทำธุรกิจด้วย
8. Blue-collar workers คนงานที่ทำงานในกระบวนการผลิตโดยตรง เช่น คนงานโรงงาน ซึ่งต่างกับ white-collar workers ซึ่งทำงานใน
สำนักงาน
9. Bondพันธบัตรหรือเอกสารที่ผู้ลงนามรับรองว่าจะจ่ายเงินให้ผู้ถือตามระยะเวลาที่กำหนด ตามเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ที่ออกอกสารนี้คือ รัฐบาล ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ และบริษัท
10. Bonusการให้ผลตอบแทนพิเศษแก่พนักงานประจำงวดหกเดือนหรือ 1 ปี โดยพิจารณาจากผลงานของพนักงานและกำไรขององค์กร บางแห่งก็มีการประกันล่วงหน้าว่า จะให้โบนัสไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ การให้โบนัส เป็นการให้แรงจูงใจผู้ทำงานที่สำคัญวิธีหนึ่ง แต่ก็มีข้อควรคำนึงอยู่บ้างว่า ไม่ควรให้สูงจนบิดเบือนโครงสร้าง เงินเดือนหรือทำให้ผู้บริหารที่ต้องการโบนัสมาก ๆ มุ่งแต่การหากำไรระยะสั้น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวขององค์กร น้อยกว่าที่ควรเป็น
5. Benefit (in kind) ผลประโยชน์หรือสวัสดิการที่ให้แก่ลูกจ้าง นอกเหนือจากเงินเดือนหรือค่าจ้าง (fringe benefit)
6. Black Market ตลาดมืด การซื้อขายสินค้านอกตลาดที่ควบคุมโดยรัฐบาล
ไม่ว่าเป็นการควบคุมราคาหรือควบคุมปริมาณ (การปันส่วน)
7. Blacklist บัญชีดำ รายชื่อบุคคลหรือองค์การซึ่งถูกถือว่ามีเครดิตไม่ดีเสี่ยงต่อการติดต่อทำธุรกิจด้วย
8. Blue-collar workers คนงานที่ทำงานในกระบวนการผลิตโดยตรง เช่น คนงานโรงงาน ซึ่งต่างกับ white-collar workers ซึ่งทำงานใน
สำนักงาน
9. Bondพันธบัตรหรือเอกสารที่ผู้ลงนามรับรองว่าจะจ่ายเงินให้ผู้ถือตามระยะเวลาที่กำหนด ตามเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ที่ออกอกสารนี้คือ รัฐบาล ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ และบริษัท
10. Bonusการให้ผลตอบแทนพิเศษแก่พนักงานประจำงวดหกเดือนหรือ 1 ปี โดยพิจารณาจากผลงานของพนักงานและกำไรขององค์กร บางแห่งก็มีการประกันล่วงหน้าว่า จะให้โบนัสไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ การให้โบนัส เป็นการให้แรงจูงใจผู้ทำงานที่สำคัญวิธีหนึ่ง แต่ก็มีข้อควรคำนึงอยู่บ้างว่า ไม่ควรให้สูงจนบิดเบือนโครงสร้าง เงินเดือนหรือทำให้ผู้บริหารที่ต้องการโบนัสมาก ๆ มุ่งแต่การหากำไรระยะสั้น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวขององค์กร น้อยกว่าที่ควรเป็น